ปัจจุบัน  flap gate เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมาะกับการกั้นคนเข้าออกตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการทำงานที่ง่าย และทันสมัย ซึ่งผู้ใช้มั่นใจได้เลยจะไม่มีการหนีบ แน่นอน  และรูปแบบต่างละรุ่นก็ต่างกันออกไป ไม่ใช่เพียงรูปแบบ ฟังก์ชันในการทำงานก็ต่างกันอีกด้วย เรามาดูว่าเจ้าflab gate ตัวนี้คืออะไรกันแน่

flap gate  หรือ เรียกอีกอย่าง ว่า ประตูปีกผีเสื้อ

ประตูปีกผีเสื้อ หรือ ประตูบีทีเอส คือ ประตูกั้นทางเข้า – ออกที่มีลักษณะใช้งานคล้าย ๆ กับประตูทางเข้า เพื่อ ขึ้นรถไฟฟ้า  ที่รู้จักกัน โดยรูปแบบการเปิดประตูเป็นแบบการใช้บัตรทาบเข้าออก  สามารถประยุกต์การใช้งานกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสแกนนิ้วมือ สแกนใบหน้าคน  รวมถึงแบบหยอดเหรียญ หรือบาร์โค้ดต่าง ๆ  ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า มีช่องสำหรับคนเดินผ่านเขาออกสูงสุดอยู่ที่ 55 เซนติเมตร พร้อมแสดงผลสถานการณ์ การใช้งานประตูแบบดิจิตอลลูกศรเตือนการใช้งาน รีโมทควบคุมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ  สามารถเปิดประตูให้คนเดินผ่านเข้า – ออกได้อย่างทันท่วงที กรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ที่พยามเปิดประตูด้วยบัตร หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาต

flab gate

สามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างมากมายหลายหลายพื้นที่ ได้แก่

  • ขนส่งสาธารณะ
  • สถานประกอบการต่าง ๆ
  • โรงงาน
  • ศูนย์แสดงสินค้า และธุรกิจการค้าต่าง ๆ
  • โรงยิม – ศูนย์ออกกำลังกาย
  • รถไฟใต้ดิน และสถานีรถไฟ
  • สระว่ายน้ำ
  • สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • โรงเรียนหรือมหาลัยต่าง ๆ

flab gate

จุดเด่น หลักของการทำงานของflap gate

  • มีระบบตรวจสอบตัว และระบบแจ้งเตือนในกรณีเกิดข้อผิดพลาดการทำงาน
  • สามารถใช้แป้นพิมพ์ขนาดเล็ก ในการจัดการการทำงานของเครื่อง
  • มีฟังก์ชั่นรักษาความปลอดภัย ปีกผีเสื้อจะหยุดทำงานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ร่วมถึงป้องการหนีบคนเดินผ่านเข้า – ออก
  • ระบบมีการแจ้งเตือนในกรณีที่มีการส่งสัญญาณ เพื่อเปิดประตูที่ผิดพลาด
  • ระบบสามารถรีเซ็ตการทำงานได้ในกรณีที่มีข้อผิดพลาด โดยความเร็วในการเปิดประตูเริ่มต้นอยู่ที่ 10 วินาที
  • ระบบมีฟังก์ชันการนับ
  • วัสดุในการผลิตปีกหรือตัวกั้น ผลิตจากกระจกอะคิลิค ยาง หรืออื่นๆ สามารถเลือกได้
  • สีของปีก เลือกได้โดยสีเริ่มต้นเป็น สีแดง ฟ้า น้ำเงิน เป็นต้น